Last updated: 28 ม.ค. 2559 | 57933 จำนวนผู้เข้าชม |
ปีใหม่ทั้งทีเรามาลองเริ่มต้นทำสิ่งดีๆ เพื่อตัวเองด้วยการดูแลสุขภาพกันตั้งแต่ต้นปีกันเถอะ! หลังจากร่างกายทุ่มเททำงานหนักตรากตรำมาตลอดปี ไหนจะต้องเจอกับโรคติดต่อที่ชอบออกมาอาละวาดกันอยู่บ่อยๆ แถมอากาศเจ้ากรรมก็ไม่ค่อยจะคงที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถ้าปล่อยให้ร่างกายต้องเจอกับสิ่งแวดล้อมต่างๆอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ร่างกายพังแน่นอน แน่นอนว่าตัวช่วยเสริมแบบง่ายๆที่เรามักจะเลือกกันก็คือ วิตามินนั่นเองงงง แต่เดี๋ยวก่อน ในบรรดาวิตามินเป็นล้านในบ้านเรา จะเลือกยังงัยดีล่ะ
วันนี้เราขอมารีวิวมหากาพย์ทุกยี่ห้อยอดฮิตของ 3 วิตามินที่คนไทยนิยมกินที่สุด คือ วิตามินบี วิตามินซี และวิตามินอี นั่นเอง มาเทียบให้ดูกันชัดๆ ไปเลย ใครชอบแบบไหนจะได้ไปซื้อกินกันถูก
เริ่มที่ตัวแรก Vitamin B ที่ขึ้นชื่อเรื่องกลิ่นยาแรงมาก จนทำให้บางคนเลิกกินกันเลยทีเดียว
คนที่ต้องทำงานหนักทุกวัน มักจะเลือกกินวิตามินบีนี่แหละ เพราะจะช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ลดความอ่อนเพลียอ่อนล้าจากการทำงาน แถมยังสามารถช่วยบรรเทาอาการชาตามปลายมือปลายเท้า และช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางกายได้ด้วย ดังนั้นจึงเหมาะมากกับคนวัยเรียนหรือวัยทำงานอย่างเราๆ ซึ่งในท้องตลาดก็มีให้เลือกกินกันเยอะแยะมากมาย แต่เราขอเลือกหยิบมารีวิวเฉพาะยี่ห้อยอดฮิตดังนี้
จากซ้ายไปขวา :
Nat B จากประเทศไทย: วิตามินบีรวมเม็ดแคปซูลยาวรีชนิดแข็ง สีแดงเลือดหมู – กินวันละ 1 เม็ด หลังอาหาร ช่วยบำรุงสมองเป็นหลัก ทำเป็นเม็ดแคปซูลทำให้กินง่าย แต่ขนาดเม็ดค่อนข้างยาว และกลิ่นวิตามินบีค่อนข้างแรง สำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นอาจจะต้องระวังไว้นิดนึง
Brand จากประเทศไทย: วิตามินบีรวมเม็ดรีชนิดเคลือบด้าน สีครีม – กินครั้งละ 2 เม็ด ช่วยการทำงานของประสาทและสมอง อันนี้ไม่ใช่แคปซูล แต่เป็นเม็ดแป้งเคลือบมัน ถึงเม็ดจะเล็กกว่า Nat B เล็กน้อยแต่ก็ยังฝืดคอไปนิด แถมยังมีกลิ่นวิตามินบีเหมือนเดิม เนื่องจากเป็นเม็ดเคลือบด้านเฉยๆ
Alinamin Ex Plus จากประเทศญี่ปุ่น: วิตามินบีรวมเม็ดกลมชนิดเคลือบมัน สีเหลือง – กินวันละ 1 เม็ด หลังอาหาร อันนี้อเมซิ่ง เพราะเม็ดยาเล็กมาก เป็นเม็ดเคลือบน้ำตาล ไม่มีกลิ่นเลย กินง่ายมาก สมกับเป็นของญี่ปุ่นจริงๆ เค้าจะทำมาเล็กๆ น่ารักๆ แบบนี้กินง่ายดี อันนี้คนญี่ปุ่นเค้าบอกว่าเป็นสูตรใหม่ ช่วยเรื่องปวดเมื่อยได้ด้วย จะจริงรึเปล่าต้องไปพิสูจน์กันเอาเอง
Blackmore Exec B’s จากประเทศออสเตรเลีย: วิตามินเม็ดใหญ่ยาวรีชนิดเคลือบด้าน สีน้ำตาล – กินวันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร อันนี้กินยากพอสมควร เพราะเม็ดค่อนข้างใหญ่ และเคลือบด้าน เลยฝืดคอ และมีกลิ่นวิตามินบีชัดเจนจ้า
--------------------
ตัวที่สอง Vitamin C เรียกได้ว่าเม็ดใหญ่สุดในบรรดาวิตามินสามตัว กลืนยากมากกกก
ส่วนใหญ่จะเห็นบ้านเราเน้นกินวิตามินซีกัน เหมือนเป็นวิตามินสามัญประจำบ้าน เพราะวิตามินซีช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง จะได้ไม่เป็นหวัดบ่อยๆ และยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่และช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย แต่ที่ผู้หญิงหลายคนกินวิตามินซีเป็นประจำ เพราะมันจะช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเนียนใส ดูสุขภาพดี
จากซ้ายไปขวา :
Vistra Acerola Cherry จากประเทศไทย: วิตามินเม็ดยาวรีชนิดเคลือบ สีเขียวอ่อน – กินวันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ไม่เป็นหวัดง่าย ตัวยาเป็นเม็ดเคลือบมัน เม็ดค่อนข้างใหญ่มว๊ากกกกกก อาจจะกินยากนิดนึง แต่คอนเฟิร์มว่าไม่มีกลิ่นกวนใจแน่นอน
Blackmore Bio C จากประเทศออสเตรเลีย: วิตามินเม็ดยาวรีชนิดเคลือบ สีน้ำตาลอ่อน - กินวันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร เรื่องขนาดยาก็ไม่ทิ้งกับตัวแรกซะเท่าไหร่ ขนาดเม็ดเท่าๆ กันเลย กินต่อเนื่องเป็นประจำรู้สึกช่วยให้ผิวใสขึ้น แต่ติดที่เม็ดค่อนข้างใหญ่มากอีกแล้ว ตอนกินนี่แทบอยากจะหั่นเป็น 3 ท่อน ต้องกินน้ำตามเยอะมากกกกก
Nat C จากประเทศไทย: วิตามินเม็ดยาวรีชนิดเคลือบ สีน้ำตาลอ่อน – กินวันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร ตัวนี้ขนาดเม็ดยาก็ใหญ่พอๆ กับ 2 ตัวแรกเลย เม็ดยาเคลือบมัน เวลากินอาจจะมีฝืดคอบ้าง ต้องกินน้ำตามเยอะๆ จะช่วยได้จ้า
DHC จากประเทศญี่ปุ่น: วิตามินเม็ดแคปซูลชนิดอ่อน สีเหลืองเข้ม – กินครั้งละ 1 เม็ด 2 ครั้ง ตัวนี้เค้าทำเป็นเม็ดแคปซูลอ่อนๆ กินง่ายมาก จะว่าไปต้องบอกว่า เป็นวิตามินที่เม็ดเล็กที่สุดในบรรดาวิตามินซีด้วยกันเลย แหม...วิตามินญี่ปุ่นนี่เค้าไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์ยาเม็ดเล็ก กินง่ายเลยจริงๆ
Hicee จากประเทศญี่ปุ่น: ยี่ห้อนี้จะแตกต่างจากทั้ง 3 ยี่ห้อข้างบนหน่อย เพราะวิตามินเม็ดแบบอม สีเหลืองอ่อน – อมวันละ 1-2 เม็ด ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนไม่ชอบกลืนยา นึกถึงเวลาหมอให้กินวิตามินตอนเด็กๆ เลย กินแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ต้องห่วงว่าเม็ดยาจะติดคอด้วย กินง่าย รสหวานอมเปรี้ยว หยิบขึ้นมาอมได้สบาย
------------------
สุดท้ายก็ Vitamin E วิตามินที่กินง่ายที่สุดในบรรดาวิตามิน 3 ตัว
สำหรับคนที่ต้องการดูแลผิวพรรณเป็นพิเศษ นอกจากบำรุงผิวภายนอกด้วยครีมบำรุงผิวแล้ว ก็มักจะดูแลผิวจากภายในด้วยวิตามินอี มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวให้มีสุขภาพดี ลดเลือนริ้วรอยให้ดูอ่อนกว่าวัย ช่วยชะลอกระบวนการเสื่อมสภาพของเซลล์ และยังช่วยบำรุงสมอง ชะลอการคุกคามของโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ แค่นี้ก็สวยแบบยกกำลังสองแล้ว
จากซ้ายไปขวา :
Blackmore Natural E จากประเทศออสเตรเลีย: วิตามินเม็ดแคปซูลยาวรีชนิดแข็ง สีใส ของเหลวสีเหลืองอ่อน – กินวันละ 1-2 เม็ด พร้อมอาหาร ช่วยบำรุงผิวจากภายใน เม็ดยาทำเป็นแคปซูลเม็ดเรียวยาว กินง่าย แถมไม่มีกลิ่นด้วย
Nat E จากประเทศไทย: วิตามินเม็ดแคปซูลกลมรีชนิดแข็ง สีใส ของเหลวสีเหลืองเข้ม - กินวันละ 1 เม็ด กินคู่กับวิตามินซีจะยิ่งได้ผลดีขึ้น ตัวแรกว่ากินง่ายแล้ว ตัวนี้ก็ทำเป็นเม็ดแคปซูลแต่เป็นเม็ดกลมรีทำให้ยิ่งกินง่ายขึ้นอีก โดยรวมแล้วต่างกันที่รูปร่างของเม็ดนิดหน่อยเท่านั้นเอง
DHC จากประเทศญี่ปุ่น: วิตามินเม็ดแคปซูลยาวรีชนิดแข็ง สีใส ของเหลวสีเหลืองเข้ม – กินวันละ 1 เม็ด ก่อนอาหารมื้อเช้าหรือเย็นก็ได้ ดูจากขนาดแล้ว ตัวนี้เป็นแคปซูลที่เม็ดเล็กที่สุดเมื่อเทียบกับ 2 ตัวก่อนหน้า แต่ตัวนี้เม็ดเล็กกว่าและกินง่ายกว่า ไม่ติดคอแน่นอน
พอจับมาเทียบขนาดและปริมาณวิตามินแล้ว ในสายของวิตามิน E คงต้องขอยกตำแหน่งเม็ดเล็กแต่คุณภาพคับแก้วให้วิตามินญี่ปุ่นอย่าง DHC อีกเช่นเคย
คราวนี้ลองมาคิดกันดูว่า ทำไมวิตามินญี่ปุ่นถึงมีไซส์เล็กกว่าวิตามินทั่วไปตามท้องตลาด ซึ่งเหตุผลสำคัญๆ ที่เราควรจะรู้ไว้ ก่อนจะเลือกซื้อวิตามิน ก็คือ
1.วิตามินเม็ดใหญ่ไม่ได้มีประโยชน์มากกว่าวิตามินเม็ดเล็กเสมอไป เพราะปริมาณวิตามินวัดกันที่ขนาดเม็ดยาไม่ได้นะ มีหลายยี่ห้อที่วิตามินมีขนาดเล็ก แต่ให้ประสิทธิภาพได้มากกว่าหรือเท่ากับวิตามินเม็ดใหญ่เลย อย่างวิตามิน Alinamin ที่มี “สารอนุพันธ์วิตามินบี1” ที่ผ่านการคิดค้นมาเป็นอย่างดี ถูกนำไปย่อยเป็นสารโมเลกุลเล็กที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าวิตามินทั่วไป ถึงแม้จะเป็นวิตามินเม็ดเล็กแต่ให้ประสิทธิภาพได้ดีเยี่ยมไม่แพ้วิตามินเม็ดใหญ่เลย นี่สิที่เขาเรียกว่าจิ๋วแต่แจ๋ว
2.วิตามินเม็ดเล็กนี่แหละสามารถพกติดกระเป๋าได้สบาย เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ชอบพกของใช้ติดตัว หรือต้องออกไปธุระข้างนอกบ่อยๆ เท่านี้ทุกคนก็สามารถบำรุงร่างกายได้ แม้จะไม่อยู่บ้าน หรือไม่มีเวลาก็ตาม
3.วิตามินเม็ดเล็กจะกินง่ายกว่า เพราะคนญี่ปุ่นเค้าใส่ใจกับสิ่งรอบตัว รวมถึงการกินยาที่อาจเป็นปัญหาสำหรับบางคน จึงทำยาเม็ดเล็กเพื่อให้คนที่กินยายากสามารถกินยาได้ง่ายๆ ถ้าสังเกตดีๆ ส่วนใหญ่วิตามินสัญชาติญี่ปุ่นจะทำแบบไซส์มินิทั้งนั้นเลย และจะมีการเคลือบเม็ดยา ช่วยกลบกลิ่นและรสให้ทุกคนสามารถกินได้ง่ายนั่นเอง
คราวนี้ใครอยากกินวิตามินบำรุงร่างกาย ก็ง่ายๆ แค่เลือกกินวิตามินไซส์เล็กสไตล์ญี่ปุ่น นวัตกรรมเม็ดเล็ก แต่ประสิทธิภาพเทียบเท่าเม็ดใหญ่ กินง่าย และพกพาได้สะดวก ส่วนใครที่กำลังหาซื้อวิตามินเม็ดเล็กๆ มากินบ้าง ไม่ต้องเสียเวลาบินไปซื้อถึงญี่ปุ่น เพราะเดี๋ยวนี้เค้ามีขายที่ไทยแล้วด้วย มีของดีแบบนี้ต้องบอกต่อ!
Credit : ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Sanook