ชิลชิลคืนเดียว เที่ยวนครนายก - เขาใหญ่ - ปากช่อง

Last updated: 22 ส.ค. 2558  |  3770 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ชิลชิลคืนเดียว เที่ยวนครนายก - เขาใหญ่ - ปากช่อง



เสาร์-อาทิตย์ สำหรับคนที่เวลาน้อย ไปไหนไกลๆ ไม่ค่อยจะได้
แนะนำทริปสั้นๆ อีกทริปหนึ่งที่อยู่ใกล้จนไม่น่าเชื่อ นครนายก - เขาใหญ่ - ปากช่อง
ขับรถชิลชิล ค้างคืนเดียว แต่สูดโอโซนได้เต็มปอด

 

เริ่มจาก 8 โมงเช้าล้อหมุน ทีมหมีทอล์คดอทคอมออกเดินทางจาก กทม. ไปตามเส้นทางวงแหวน บางนา-บางปะอิน แล้วแฉลบเข้าเส้น รังสิต-นครนายก แวะชิมเค้กแสนอร่อยกับกาแฟหอมกรุ่นที่ร้าน a cup of trees หน้าทางเข้าตลาดต้นไม้ธัญศิริ คลอง 6 รังสิต-นครนายก ร้านนี้นอกจากจะจัดร้านสวยงามน่านั่งแล้ว กาแฟยังหอมและเค้กก็อร่อยมากอีกด้วย ตอนที่ทีมเราไปถึงยังไม่สายมากนักเห็นพนักงานยังทำเค้กกันอยู่เลย นี่การันตีได้ว่าเค้กที่นี่ ทำเองจริงๆ และสดทุกวันจริงๆ 
 



บางส่วน (จากเกือบ 10 จาน) ที่ร้าน a cup of trees

เรานั่งละเลียดเค้กกับกาแฟกันอยู่ชั่วโมงกว่า ใครอยากรู้ว่ารสชาติเค้กและกาแฟของร้านนี้อร่อยแค่ไหนคงต้องท้าให้ลองไปชิมกันเอง แล้วอย่าลืมเซลฟี่บรรยากาศดีๆ ของร้านเก็บไว้ด้วยล่ะ

หลังอิมอร่อยกับกาแฟแกล้มเค้กแล้ว ทีมหมีหอล์คดอทคอมก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครนายก กะว่าคงขับรถกันพักใหญ่กว่าจะถึงแถวๆ ที่พักและน้ำตก แต่ผิดคาด ! เราใช้เวลาบนถนนไม่นานก็ถึงตัวเมืองนครนายก และเลยไปอีกนิดก็เจอที่พักแล้ว ! 


พระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

เดี๋ยวจะเล่าว่าเราพักกันที่ไหน ตอนนี้ไปหาที่เที่ยวก่อนดีกว่า ... เราไปแวะสักการะพระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งคนไทยนับถือบูชาในฐานะเทพแห่งศิลปะวิทยาการ ที่ อุทยานพระพิฆเนศ จังหวัดนครนายก หาไม่ยากเลย ขับไปตามทางถึงนครนายกก็จะมีป้ายบอกทางไปน้ำตก ขับไปเรื่อยๆ ก็เจอ แวะไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคล ถ่ายรูป-เซลฟี่กันแล้วก็ไปหาบรรยากาศ "ส้มตำ-น้ำตก" กัน 


สีเขียวสดใส ชุ่มชื้น บริเวณน้ำตกสาริกา จังหวัดนครนายก

ที่นครนายกมีน้ำตกหลายแห่ง แต่วันนั้นเราเลือกแวะที่น้ำตกสาริกา โดย "จิ้น" กันว่าจะไปนั่งกินส้มตำดูน้ำตกกันให้สบายท้องสบายตา ... แต่ถือว่าเราโชคดี(ไม่มาก) วันนั้นน้ำตกสาริกากลายเป็น "น้ำหยด" เพราะช่วงที่ทีมหมีทอล์คดอทคอมไปเยือนนั้นเป็นช่วงที่ประเทศไทยเราฝนขาดช่วงพอดี แต่ถึงอย่างไรบรรยากาศบริเวณน้ำหยด...เอ๊ย ! น้ำตกสาริกาที่แม้จะไม่มีน้ำก็เย็นโล่งโปร่งสบายเหมือนอยู่ในห้องแอร์ที่กรุงเทพยังไงยังงั้น บรรยากาศ "ส้มตำ-น้ำตก" จึงไม่ได้กร่อยลงแต่อย่างใด เราใช้เวลาพักผ่อนอยู่ที่นี่ราวสองชั่วโมงจึงเดินทางเข้าที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากน้ำตกนัก

และแล้วก็มาถึงไฮไลท์ของทริปนี้ สถานที่พักผ่อนใกล้กรุงเทพที่มีความเป็นส่วนตัว ราคาไม่แพงมากนัก และบรรยากาศดีมีไอเดียในการออกแบบตกแต่งชิคๆ คือสิ่งที่เราตามหา จากที่พักกว่าสิบแห่ง เราเลือกที่นี่ "มีนาวิลล่า" ด้วยดีไซน์แบบโพสโมเดิร์น คือใช้โครงสร้างเหล็กกับกระจก ตกแต่งด้วยไม้เก่า  ปูนเปลือย จัดวางเข้ากับต้นไม้ร่มรื่น ทางเดินที่เชื่อมต่อกันได้สะดวก พรั่งพร้อมด้วยร้านอาหารและคอฟฟี่ช้อป ที่สำคัญโซนที่เราเลือกมีสระว่ายน้ำอยู่หน้าห้องพักเสียด้วย เรื่องนี้ต้องชมเจ้าของและนักออกแบบว่าสร้างสรรค์ที่พักได้ชิลมาก บ่ายวันนั้นทีมหมีทอล์คดอทคอมก็ได้นั่งๆ นอนๆ พักผ่อนตามอัธยาศัย พอแดดร่มลมตกก็ได้ใช้บริการสระว่ายน้ำรีแลกซ์กันอย่างสนุกสนาน

บรรยากาศร่มรื่นที่ มีนาวิลล่า

อาหารค่ำไม่ต้องออกไปไหนไกล อย่างที่เล่าไว้ว่าที่นี่เขามีพร้อมทั้งร้านกาแฟและร้านอาหาร เรียกว่า one stop service กันเลยทีเดียว ... พอฟ้ามืดบรรยากาศร่มรื่นก็เปลี่ยนไปเป็นครึกครื้นระยิบระยับด้วยแสงไฟและผู้คนที่พากันมาดื่ม-กินกันที่นี่ ทั้งแขกที่พักและลูกค้าจากภายนอก รสชาติอาหารก็ดี อาหารออกเร็วไม่ต้องรอนาน บริการดีน่าบอกต่อ เราได้ทั้งอิ่มท้องและอิ่มบรรยากาศ ก่อนที่จะเข้าที่พักหลับสบายตลอดคืน

ยังไม่จบกับที่นี่ มื้อเช้าของคุณกับบรรยากาศริมสระน้ำ เขาทำโถงอาหารเช้าไว้ให้ อเมริกันเบรคฟาสกับข้าวต้มเครื่อง มื้อเช้าแบบเบสิกๆ แต่ก็สามารถทำให้เรานั่งเพลินๆ ได้ ใครใคร่นั่งละเลียดกาแฟกับอาหาร อ่านหนังสือ ฟังเอ็มพีสาม หรือลุกขึ้นไปยิงพูลก็ได้ บางครอบครัวก็ลงสระน้ำกันตั้งแต่เช้า เรียกได้ว่าอยากทำอะไร "แล้วแต่เลย"

บรรยากาศร่มรื่นที่ มีนาวิลล่า

ก่อนเช็คเอ้าท์เราอุดหนุนกาแฟสดกันอีกคนละแก้วแล้วขับรถมุ่งสู่เขาใหญ่ โดยไปขึ้นทางจังหวัดปราจีนบุรี เส้นทางเล็กๆ รถไม่มาก ใช้เวลาไม่นานเราก็เข้าสู้เขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป้าหมายง่ายๆ ขัยรถชิลๆ เปิดกระจก ชมวิวสูดอากาศบริสุทธิ์ และแวะถ่ายรูปบรรยากาศธรรมชาติข้างทาง แค่นี้ก็เพลินแล้ว ... เราใช้เวลาอยู่บนเขาใหญ่นานพอสมควรโดยขับรถขึ้นทางปราจีนบุรีแล้วไปลงฝั่งปากช่อง ระหว่างทางก็เจอทั้งแดดทั้งฝน ได้หลายบรรยากาศมากๆ 

เมื่อลงจากเขาใหญ่ ทีมหมีทอล์คดอทคอมมุ่งหน้าสู่อำเภอปากช่องด้วยท้องที่ว่างเปล่า อาหารเช้าและขนมย่อยหมดแล้ว เป้าหมายของเราจึงอยู่ที่ร้านอาหารกึ่งพิพิธภัณฑ์ "บ้านไม้ชายน้ำ" ขับไปหลงไปเพราะจีพีเอสทำเหตุ ... ไม่ใช่ไม่แม่น แต่เราจำชื่อร้านผิด จีพีเอสเลยพาไปหาอพาร์ทเม้นต์แทนร้านอาหาร (ฮา) เมนูที่นี่คงไม่ต้องแนะนำมาก เรียกได้ว่า มาทุกที อร่อยทุกครั้ง แต่ "เมนูปลา" ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย ... คงไม่ต้องรีวิวกันมากสำหรับร้านนี้เพราะใครที่มาถึงปากช่องถ้ายังไม่เคยแวะชิมคงจะ "คุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง" ที่นี่มีทั้งอาหารท้องและอาหารใจด้วยพิพิธภัณฑ์ของเล่นโบราณที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน บอกได้เลยว่า "เยอะจนดูไม่ถ้วน" ถ้าจะดูให้ละเอียดคงไม่ได้กิน ถ้าจะกินคงดูได้แค่ผ่านๆ ประมาณนั้น
 
 
เรามาถึงร้านบ้านไม้ชายน้ำในช่วงบ่ายแก่ ทำให้เสร็จจากมื้ออาหารไม่ถึงค่ำ นับว่าเหมาะกับการขับรถเข้ากรุงเทพเพราะด้วยแสงที่ยังไม่มืดเราก็พอจะชมวิวข้าวทางของถนนมิตรภาพได้ ... และรายการสุดท้ายของทริปนี้คือแวะซื้อนม "อึ้มมิลค์" ที่ฟาร์มโชคชัย แต่เชื่อเถอะว่าถ้าลองได้แวะแล้วมีหรือจะได้แต่นม !!

เสร็จจากช้อปเล็กๆ ที่ฟาร์มโชคชัยก็ถึงเวลากลับ เราขับรถเข้ากรุงเทพด้วยเส้นทางสระบุรี-กรุงเทพ ใช้เวลามากกว่าทางรังสิต-นครนายกแต่ก็คิดเสียว่าขับรถชมวิวก็เพลิดเพลินดี กว่าจะถึงกรุงเทพก็ค่ำมืดพอดี ... ทุกคน "อิ่มดีมีสุข" เติมพลังพร้อมทำงานเต็มที่ในวันจันทร์
 
 ... การเดินทางท่องเที่ยวเป็นการพักผ่อนที่ได้ประโยชน์หลายอย่าง
และไม่จำเป็นต้องลงทุนเวลาและค่าใช้จ่ายที่มากมายนัก หากเราวางแผนล่วงหน้าที่ดี
รู้จักเลือกสรรสิ่งที่เหมาะสมกับเรา และไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศ เพียงเท่านี้เราก็หาความสุขให้กับชีวิตได้แล้ว ...


Powered by MakeWebEasy.com